Category: หนังไทย

  • Homehome (2025) ห้องเรียน 29 ตัวประกัน

    Homehome (2025) ห้องเรียน 29 ตัวประกัน

    ซีรีส์ “HOMEROOM 29 ตัวประกัน” เป็นการดัดแปลงจากซีรีส์ญี่ปุ่นชื่อดัง “Mr. Hiiragi’s Homeroom” (3 Nen A Gumi: Ima kara Minna wa, Hitojichi Desu) มาสู่ฉบับไทย โดยได้ผู้กำกับมากฝีมืออย่าง โขม ก้องเกียรติ โขมศิริ และ เก้า วิรดา คูหาวันต์ มาร่วมกันสร้างสรรค์ความระทึกขวัญและปมปริศนาที่เข้มข้นยิ่งขึ้น เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นในวันก่อนพิธีจบการศึกษาเพียง 5 วัน ที่ชั้นเรียน ม.6/1 ของโรงเรียนแห่งหนึ่ง ซึ่งมีนักเรียนทั้งหมด 30 คน จู่ๆ ก็ต้องเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เมื่อ ครูวิณณ์ (รับบทโดย มิว ศุภศิษฏ์ จงชีวีวัฒน์) ครูประจำชั้นผู้ที่ปกติเป็นคนเงียบขรึมและไม่ค่อยเป็นที่สังเกต กลับกลายเป็นผู้จับนักเรียนทั้งห้อง 29 คน (เดิม 30 แต่มีนักเรียนหนึ่งคนเสียชีวิตก่อนหน้านี้) เป็นตัวประกัน

    แรงจูงใจเบื้องหลังการกระทำที่บ้าคลั่งของครูวิณณ์คือการตามหาความจริงเบื้องหลังการเสียชีวิตอย่างปริศนาของนักเรียนคนหนึ่งในชั้นเรียนนี้ที่ตัดสินใจจบชีวิตลง โดยครูวิณณ์เชื่อว่าการตายของนักเรียนคนนั้นไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่มีเบื้องลึกเบื้องหลังที่นักเรียนคนใดคนหนึ่งในห้องต้องรับผิดชอบ และเขาจะไม่ยอมปล่อยตัวประกันคนใดไปจนกว่าความจริงทั้งหมดจะถูกเปิดเผย และผู้กระทำผิดจะต้องได้รับบทเรียนที่สาสม การกระทำของครูวิณณ์ไม่เพียงแต่สร้างความหวาดกลัวให้กับนักเรียนเท่านั้น แต่ยังเปิดโปงด้านมืดของสังคมโรงเรียนและจิตใจมนุษย์ที่ซ่อนอยู่ภายใต้ความปกติ

    ภายใต้การจับกุม นักเรียนทั้ง 29 คนถูกบังคับให้เข้าร่วม “บทเรียน” สุดโหดที่ต้องแลกมาด้วยชีวิตและน้ำตา ครูวิณณ์ใช้สถานการณ์การเป็นตัวประกันนี้เป็นเวทีในการตั้งคำถาม ท้าทาย และบีบบังคับให้นักเรียนแต่ละคนเปิดเผยความลับ ความผิดพลาด และบาปที่พวกเขาได้กระทำต่อเพื่อนร่วมชั้น หรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของเพื่อนที่จากไป การที่นักเรียนทุกคนถูกขังอยู่ด้วยกัน ทำให้ความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนภายในห้องเรียน ไม่ว่าจะเป็นมิตรภาพ, ความริษยา, การบูลลี่, การหักหลัง, หรือแม้กระทั่งความรัก ที่เคยถูกซุกซ่อนไว้ภายใต้หน้ากากของ “นักเรียนที่ดี” ค่อยๆ ถูกเปิดโปงออกมาอย่างช้าๆ

    ซีรีส์จะพาผู้ชมดำดิ่งสู่บรรยากาศที่ตึงเครียดและกดดัน ทุกฉากเต็มไปด้วยการปะทะคารม การคาดเดา และการเปิดเผยความลับที่น่าตกใจ ตัวละครแต่ละตัวมีมิติที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น นิทาน (รับบทโดย เจนนิษฐ์ โอ่ประเสริฐ) นักเรียนสาวผู้มีความสามารถแต่เก็บซ่อนความลับบางอย่าง, เร็น (รับบทโดย เจน กุลจิราณัฐ วรรักษา) และนักแสดงคนอื่นๆ ที่มาร่วมถ่ายทอดบทบาทที่หลากหลาย ซึ่งแต่ละคนล้วนเป็นชิ้นส่วนสำคัญของจิ๊กซอว์ที่จะนำไปสู่คำตอบสุดท้าย

    นอกจากการเปิดเผยความจริงเบื้องหลังการตายของนักเรียนแล้ว ซีรีส์ยังสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาสังคมในโรงเรียนอย่างลึกซึ้ง ไม่ว่าจะเป็นปัญหาการกลั่นแกล้ง (Bullying) ทั้งทางตรงและทางออนไลน์, ผลกระทบจากสังคมโซเชียลมีเดีย, ความกดดันจากครอบครัวและโรงเรียน, รวมถึงจิตใจด้านมืดของผู้ใหญ่และคุณครูเองที่อาจมีส่วนในการผลักดันให้เกิดโศกนาฏกรรมขึ้น ครูวิณณ์ไม่ได้เพียงแค่ต้องการลงโทษ แต่เขาต้องการให้บทเรียนนี้เปลี่ยนมุมมองและความคิดของนักเรียนทุกคน ให้พวกเขาตระหนักถึงผลของการกระทำและคุณค่าของชีวิต

    ตลอดทั้ง 16 ตอน ผู้ชมจะได้ร่วมลุ้นไปกับการคลี่คลายปมปริศนา การไขปริศนาทีละขั้น และการเฝ้าดูการเปลี่ยนแปลงของตัวละครที่ถูกบีบคั้นให้อยู่ในสถานการณ์ที่ต้องเลือก การต่อสู้ไม่ใช่แค่ระหว่างครูกับนักเรียน แต่เป็นการต่อสู้กับจิตใจของตัวเอง การเผชิญหน้ากับความจริงที่เจ็บปวด และการเรียนรู้ที่จะยอมรับและก้าวผ่านความผิดพลาด ซีรีส์เรื่องนี้เต็มไปด้วยจุดหักมุมที่คาดไม่ถึง และบทสรุปที่ชวนให้ผู้ชมได้ครุ่นคิดถึงคุณค่าของชีวิตและความรับผิดชอบต่อสังคม

    “HOMEROOM 29 ตัวประกัน” เป็นซีรีส์ที่เข้มข้น ดำมืด และกระตุ้นให้เกิดการตั้งคำถามเกี่ยวกับศีลธรรมและจริยธรรมในสังคมปัจจุบัน มันไม่ใช่แค่เรื่องราวการจับตัวประกัน แต่เป็นบทเรียนอันโหดร้ายที่จะสอนให้ทุกคนตระหนักถึงผลลัพธ์ของการกระทำ และความสำคัญของการอยู่ร่วมกันอย่างเข้าใจและเห็นอกเห็นใจกัน

  • Mad Unicorn (2025) สงคราม ส่งด่วน

    Mad Unicorn (2025) สงคราม ส่งด่วน

    Mad Unicorn เป็นซีรีส์ดราม่าธุรกิจระทึกขวัญที่เล่าเรื่องราวเข้มข้นของการแข่งขันอันดุเดือดในโลกสตาร์ทอัพเทคโนโลยี ณ ใจกลางกรุงเทพมหานคร ซีรีส์เรื่องนี้เจาะลึกเข้าไปในชีวิตของกลุ่มผู้ก่อตั้งและนักลงทุนที่ต้องเผชิญกับความทะเยอทะยานอันแรงกล้า การหักหลัง ความรัก และการเอาชีวิตรอดในตลาดที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

    เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ ธีร์ (Thee) หนุ่มอัจฉริยะด้านเทคโนโลยีผู้มีวิสัยทัศน์อันกว้างไกล ได้ก่อตั้งบริษัทสตาร์ทอัพของเขาชื่อ “Unicorn” ด้วยความมุ่งมั่นที่จะปฏิวัติวงการโลจิสติกส์ด้วยนวัตกรรมที่ล้ำสมัย โปรเจกต์ของเขาสัญญาว่าจะเปลี่ยนแปลงวิธีการขนส่งสินค้าไปตลอดกาล แต่เส้นทางสู่ความสำเร็จนั้นไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ธีร์ต้องเผชิญหน้ากับอุปสรรคมากมาย ทั้งการหาเงินทุน การแข่งขันจากบริษัทคู่แข่งรายใหญ่ที่พยายามเข้ามาครอบงำตลาด และความท้าทายในการบริหารจัดการทีมงานที่หลากหลาย

    คู่แข่งคนสำคัญของธีร์คือ พิม (Pim) อดีตเพื่อนร่วมงานและหุ้นส่วนเก่าที่ผันตัวมาเป็นคู่ปรับ เธอเป็นนักธุรกิจหญิงผู้แข็งแกร่งและไม่ยอมใคร พิมก่อตั้งบริษัทของตัวเองเพื่อแข่งกับ Unicorn โดยตรง เธอเชื่อว่าเธอมีวิธีที่ดีกว่าในการนำเทคโนโลยีโลจิสติกส์ไปสู่ตลาด และพร้อมที่จะทำทุกวิถีทางเพื่อคว้าชัยชนะ การต่อสู้ทางธุรกิจของทั้งคู่ไม่เพียงแต่เป็นการแข่งขันทางเทคโนโลยี แต่ยังรวมถึงการใช้กลยุทธ์ที่เฉียบคม การเจรจาที่ดุเดือด และบางครั้งก็ถึงขั้นการหักหลังกันเพื่อช่วงชิงความได้เปรียบ

    นอกจากความตึงเครียดทางธุรกิจแล้ว Mad Unicorn ยังสำรวจมิติความสัมพันธ์ส่วนตัวที่ซับซ้อนของตัวละคร ทั้งความรักที่ต้องเลือกระหว่างความทะเยอทะยานส่วนตัวกับความรู้สึกที่มีต่อคนรัก มิตรภาพที่ถูกทดสอบเมื่อผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง และความขัดแย้งภายในครอบครัวที่ส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจทางธุรกิจ ทุกตัวละครต้องเผชิญหน้ากับทางเลือกที่ยากลำบาก ซึ่งล้วนมีผลกระทบต่ออนาคตของพวกเขาและบริษัท

    เมื่อโปรเจกต์ของ Unicorn ใกล้จะประสบความสำเร็จ การต่อสู้ก็ทวีความรุนแรงขึ้น มีการเปิดโปงความลับ เบื้องหลังการเจรจาที่ซับซ้อน และการพยายามเข้ามาแทรกแซงจากบุคคลภายนอกที่ไม่ประสงค์ดี ธีร์และทีมงานต้องรวมพลังกันเพื่อปกป้องนวัตกรรมของพวกเขา และพิสูจน์ให้เห็นว่าวิสัยทัศน์ของพวกเขาคุ้มค่ากับการต่อสู้

    Mad Unicorn ไม่ใช่แค่เรื่องราวของการสร้างสตาร์ทอัพ แต่ยังเป็นภาพสะท้อนของโลกธุรกิจในปัจจุบันที่เต็มไปด้วยความผันผวน การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และแรงกดดันในการประสบความสำเร็จ ซีรีส์เรื่องนี้จะพาผู้ชมไปสัมผัสกับความตื่นเต้น ความผิดหวัง และบทเรียนอันล้ำค่าที่ได้จากการเผชิญหน้ากับความท้าทายในโลกที่ทุกการตัดสินใจมีความหมาย และทุกความผิดพลาดอาจนำมาซึ่งหายนะ