ในโลกใต้ดินของเกาหลีที่เต็มไปด้วยความมืดมิดและความรุนแรง ชื่อของ นัม กีจุน (รับบทโดย โซ จีซบ) เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะนักเลงผู้ไร้ความปรานีและเปี่ยมด้วยพลังอำนาจ เขาเคยเป็นแกนนำคนสำคัญของแก๊งค์อันทรงอิทธิพล แต่โชคชะตากลับเล่นตลก เมื่อเหตุการณ์บางอย่างที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของเขาอย่างสิ้นเชิงเกิดขึ้น กีจุนตัดสินใจทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างไว้เบื้องหลัง ทิ้งโลกอาชญากรรมที่เขาเคยผูกพันอย่างลึกซึ้ง และเลือกที่จะใช้ชีวิตอย่างเงียบสงบ หลีกหนีจากเงาของอดีตที่ตามหลอกหลอน ด้วยความหวังว่าจะได้สัมผัสกับความสงบสุขที่เขาไม่เคยรู้จักมาก่อน
แต่ความสงบสุขที่แสวงหากลับเป็นเพียงภาพลวงตา สิบเอ็ดปีผ่านไป ความเงียบงันถูกทำลายลงด้วยข่าวร้ายที่สั่นสะเทือนจิตวิญญาณของกีจุนอย่างรุนแรง นั่นคือการเสียชีวิตของ นัม กีซอก น้องชายแท้ๆ ของเขา กีซอกถูกฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยมในสถานที่ที่เรียกว่า “พลาซ่า” ซึ่งเป็นแหล่งรวมอำนาจและอิทธิพลของแก๊งค์ต่างๆ การตายของน้องชายที่เขารักเป็นเหมือนประกายไฟที่จุดชนวนความโกรธแค้นที่ถูกเก็บงำมานานให้ปะทุขึ้น กีจุนรู้ดีว่าการตายของกีซอกไม่ใช่แค่เหตุบังเอิญ แต่มันคือการประกาศสงคราม การกลับมาของเขาไม่ใช่เพื่อทวงคืนตำแหน่ง แต่เพื่อตามล่าหาความจริงและล้างแค้นให้กับน้องชายผู้จากไป
เมื่อกีจุนก้าวกลับเข้าสู่โลกใต้ดินที่เขาเคยทิ้งไป ทุกสิ่งทุกอย่างดูเหมือนจะเปลี่ยนไป ผู้คนใหม่ๆ ขึ้นมามีอำนาจ กฎเกณฑ์บางอย่างถูกบิดเบือน แต่สิ่งหนึ่งที่ยังคงเดิมคือความโหดเหี้ยมและความไร้เมตตา การสืบสวนการตายของน้องชายนำพากีจุนไปพบกับเบาะแสมากมายที่เชื่อมโยงกับแก๊งค์เก่าของเขา และแก๊งค์คู่อริต่างๆ ที่คอยช่วงชิงอำนาจในพลาซ่า ยิ่งเขาขุดลึกลงไปเท่าไหร่ เขายิ่งพบว่าเรื่องราวซับซ้อนกว่าที่คิด การตายของกีซอกอาจเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของแผนการที่ใหญ่กว่าและเลวร้ายกว่าที่ใครจะจินตนาการได้
ตลอดการเดินทางแห่งการล้างแค้น กีจุนต้องเผชิญหน้ากับศัตรูเก่าที่เคยเป็นพันธมิตร และศัตรูใหม่ที่ไม่รู้จัก เขาต้องใช้ไหวพริบ ความแข็งแกร่ง และประสบการณ์ที่เคยสั่งสมมาเพื่อเอาตัวรอดจากการปะทะอันดุเดือด ฉากแอ็คชั่นในซีรีส์เรื่องนี้ถูกออกแบบมาอย่างประณีตและสมจริง สะท้อนให้เห็นถึงความรุนแรงของโลกอาชญากรรมได้อย่างไร้ที่ติ การต่อสู้มือเปล่า การยิงปะทะ และการไล่ล่าที่น่าตื่นเต้น ทำให้ผู้ชมต้องนั่งไม่ติดเก้าอี้ ลุ้นระทึกไปกับการเคลื่อนไหวทุกย่างก้าวของกีจุน
นอกจากฉากแอ็คชั่นที่เข้มข้นแล้ว “Mercy for None” ยังเจาะลึกเข้าไปในจิตใจของตัวละคร โดยเฉพาะความขัดแย้งภายในจิตใจของกีจุน เขายังคงยึดมั่นในหลักการของตัวเอง แม้จะต้องแปดเปื้อนไปด้วยเลือดและสิ่งสกปรกในโลกที่เขาพยายามหลีกหนี ความเจ็บปวดจากการสูญเสียน้องชายผลักดันให้เขาก้าวไปข้างหน้า แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้เขาต้องตั้งคำถามถึงคุณค่าของสิ่งที่เขาทำลงไป ว่าการแก้แค้นจะนำมาซึ่งสันติสุขที่แท้จริงได้หรือไม่
เรื่องราวไม่ได้หยุดอยู่แค่การล้างแค้นส่วนตัว แต่ยังเผยให้เห็นถึงโครงสร้างอำนาจที่ซับซ้อนของโลกใต้ดิน การหักหลัง การสมคบคิด และการฉ้อฉลเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา มิตรภาพถูกทดสอบ ความภักดีถูกตั้งคำถาม และชีวิตของผู้บริสุทธิ์มักจะตกเป็นเหยื่อ กีจุนพบว่าตัวเองกำลังติดอยู่ในวงล้อแห่งความรุนแรงที่ดูเหมือนจะไม่มีวันสิ้นสุด เขายิ่งพยายามที่จะคลี่คลายปม ยิ่งพบว่าตัวเองต้องเผชิญหน้ากับความจริงที่เจ็บปวดและทรมานมากขึ้นเรื่อยๆ
ซีรีส์ยังได้นำเสนอตัวละครสมทบที่น่าสนใจมากมาย ซึ่งแต่ละคนต่างก็มีบทบาทสำคัญในการดำเนินเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นอดีตเพื่อนร่วมแก๊งค์ที่อาจกลายเป็นศัตรู คนวงในที่มีข้อมูลสำคัญ หรือแม้แต่ตำรวจที่พยายามจะกวาดล้างอาชญากรรม โดยที่บางครั้งก็ต้องข้องเกี่ยวกับโลกใต้ดินอย่างเลี่ยงไม่ได้ ความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนเหล่านี้ทำให้เรื่องราวมีความลึกซึ้งและน่าติดตามมากยิ่งขึ้น
“Mercy for None” ไม่ใช่แค่ซีรีส์แอ็คชั่น แต่เป็นดราม่าหนักหน่วงที่สะท้อนให้เห็นถึงด้านมืดของจิตใจมนุษย์ การเลือกทางเดินชีวิต และผลลัพธ์ที่ตามมาจากการตัดสินใจเหล่านั้น การเดินทางของกีจุนไม่ใช่แค่การต่อสู้ทางกายภาพ แต่เป็นการต่อสู้กับอดีตของตัวเอง และการพยายามหาความหมายของการมีชีวิตอยู่ท่ามกลางความสูญเสีย ซีรีส์เรื่องนี้ท้าทายให้ผู้ชมตั้งคำถามเกี่ยวกับความยุติธรรม ศีลธรรม และความเมตตาในโลกที่ดูเหมือนจะไม่มีเหลืออยู่
ในตอนจบของเรื่องราว กีจุนได้ค้นพบความจริงเบื้องหลังการตายของน้องชาย และต้องตัดสินใจเลือกเส้นทางสุดท้ายของเขา ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร การเดินทางครั้งนี้ได้เปลี่ยนแปลงเขาไปตลอดกาล “Mercy for None” ทิ้งท้ายด้วยความรู้สึกสะเทือนอารมณ์และคำถามที่ค้างคาใจผู้ชมว่าในโลกที่เต็มไปด้วยความรุนแรงและไร้เมตตานั้น ยังพอมีความหวังเหลืออยู่หรือไม่ สำหรับผู้ชมที่ชื่นชอบซีรีส์แนวแอ็คชั่นเข้มข้น ดราม่าลึกซึ้ง และเรื่องราวการแก้แค้นที่ไม่ประนีประนอม ซีรีส์เรื่องนี้คือตัวเลือกที่ไม่ควรพลาด